ติดต่อ:

(+66)052-005-509

เรื่องหน้ารู้ บทความที่น่าสนใจ

เรื่องหน้ารู้ > กลยุทธ์การตั้งราคาสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่ | เลือกให้เหมาะ เพิ่มยอดขายให้ปัง

blog

กลยุทธ์การตั้งราคาสำหรับร้านอาหารและคาเฟ่ | เลือกให้เหมาะ เพิ่มยอดขายให้ปัง

      ในโลกของธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ การตั้งราคาไม่ใช่แค่การบวกต้นทุนแล้วเพิ่มกำไร แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่มีผลโดยตรงต่อพฤติกรรมลูกค้า ภาพลักษณ์ของร้าน และแน่นอนคือกำไรขั้นสุดท้ายของธุรกิจ การตั้งราคาที่เหมาะสมช่วยให้ร้านสามารถแข่งขันในตลาดได้ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และส่งเสริมยอดขายอย่างยั่งยืน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจกลยุทธ์การตั้งราคาที่หลากหลาย และวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสมกับร้านของคุณโดยเฉพาะ

ทำไมกลยุทธ์การตั้งราคาจึงสำคัญกับร้านอาหาร
  1. ส่งผลต่อกำไรโดยตรง: หากตั้งราคาต่ำเกินไป อาจไม่ครอบคลุมต้นทุน หากตั้งราคาสูงเกินไป ลูกค้าอาจหนี
  2. สะท้อนภาพลักษณ์ของร้าน: ราคาเมนูสามารถส่งผลต่อการรับรู้ของลูกค้า เช่น คาเฟ่ที่ราคาเฉลี่ย 150 บาทจะให้ความรู้สึกพรีเมียมมากกว่าร้านที่ราคาเฉลี่ย 50 บาท
  3. ใช้ในการแข่งขัน: การตั้งราคาอย่างมีกลยุทธ์ช่วยสร้างความได้เปรียบในตลาด


กลยุทธ์การตั้งราคายอดนิยมสำหรับธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่


1. Cost-Plus Pricing (ตั้งราคาจากต้นทุน + กำไร) เหมาะสำหรับร้านที่มีต้นทุนค่อนข้างแน่นอน เช่น ร้านอาหารทั่วไป ร้านข้าวแกง เป็นต้น
ข้อดี: ช่วยควบคุมต้นทุนได้ง่าย
ข้อควรระวัง: อาจไม่สะท้อนคุณค่าจริงที่ลูกค้าได้รับ
ตัวอย่าง: หากต้นทุนวัตถุดิบ + แรงงาน เท่ากับ 50 บาท อาจตั้งราคาขายที่ 75 บาทเพื่อได้กำไร 50%



2. Psychological Pricing (ตั้งราคาด้วยจิตวิทยา) ตั้งราคาแบบ 49 แทน 50 หรือ 89 แทน 90 เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าถูกลง
เหมาะกับ: ร้านนม คาเฟ่วัยรุ่น ร้านบุฟเฟ่ต์ราคาประหยัด
เทคนิคเสริม: ใช้คำว่า "เพียงแค่" หรือ "สุดคุ้ม" ร่วมกับราคาจิตวิทยาในเมนู



3. Value-Based Pricing (ตั้งราคาจากคุณค่าที่ลูกค้าได้รับ) เหมาะกับร้านที่เน้นประสบการณ์ เช่น บรรยากาศดี วัตถุดิบพรีเมียม หรือการบริการโดดเด่น

ตัวอย่าง: ร้านคาเฟ่ที่มีเครื่องดื่มราคาสูงกว่าเจ้าอื่น 30% แต่ลูกค้ายินดีจ่ายเพราะได้บรรยากาศและรูปภาพสวยๆ



4. Bundle Pricing (ตั้งราคาแบบแพ็กเกจหรือเป็นชุด) เสนอเมนูเป็นเซต เช่น ข้าว + น้ำ + ของหวาน ในราคาที่ถูกกว่าซื้อแยก

เหมาะกับ: ร้านอาหารที่ต้องการเพิ่มยอดขายต่อหัว เช่น ร้านข้าวกล่อง ร้านบุฟเฟ่ต์
ข้อดี: เพิ่มมูลค่าต่อคำสั่งซื้อ และทำให้ลูกค้ารู้สึกคุ้ม



5. Penetration Pricing (ตั้งราคาถูกเพื่อเจาะตลาด) ใช้เมื่อเปิดร้านใหม่ หรือออกเมนูใหม่ โดยตั้งราคาต่ำกว่าคู่แข่งในช่วงแรก

ข้อดี: ดึงดูดลูกค้าใหม่ได้รวดเร็ว
ข้อควรระวัง: ต้องวางแผนการปรับราคาภายหลังไม่ให้ลูกค้า "ชิน" กับราคาต่ำ



เทคนิคการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับร้านของคุณ
  1. วิเคราะห์ต้นทุนของร้าน: วัตถุดิบ, แรงงาน, ค่าเช่า, ค่าบริหารจัดการ
  2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน: วัยรุ่น, ครอบครัว, คนทำงาน, นักท่องเที่ยว
  3. ดูราคาคู่แข่ง: วิเคราะห์ตลาดรอบร้านว่าราคาของร้านอื่นอยู่ระดับไหน
  4. เข้าใจภาพลักษณ์ร้านตนเอง: ถ้าเน้นพรีเมียม ราคาก็ควรสื่อถึงคุณค่านั้น
  5. วางแผนการปรับราคา: ตั้งราคาช่วงเปิดตัว กับราคาปกติ

ตัวอย่างการนำกลยุทธ์ไปใช้จริง


ร้านนมสำหรับวัยรุ่น
  • - ใช้ Psychological Pricing: เมนูเครื่องดื่มราคา 39, 49, 59 บาท
  • - มีโปร "ซื้อ 2 แถม 1" ทุกวันศุกร์ เพิ่มยอดเฉลี่ยต่อบิล



ร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง
  • - ใช้ Bundle Pricing + Value-Based Pricing
  • - ราคา 399 บาท รวมทุกเมนู ไม่บวกเพิ่ม สื่อความรู้สึกว่า "กินได้ไม่อั้นและคุ้ม"



ร้านคาเฟ่พรีเมียม
  • ใช้ Value-Based Pricing เน้นภาพลักษณ์และประสบการณ์
  • กาแฟ 120-180 บาทต่อแก้ว พร้อมบรรยากาศดี มีมุมถ่ายรูปสวย



เคล็ดลับเสริมการตั้งราคาให้ได้ผลจริง
  • - A/B Testing: ทดลองเปรียบเทียบเมนูเดียวกันในราคาต่างกัน 1-2 สัปดาห์ เพื่อดูผลลัพธ์
  • - ออกแบบเมนูให้ดึงดูด: ไม่ใส่ "บาท" หรือ "ตัวเลขเรียง" เพื่อไม่ให้ลูกค้าเน้นที่ราคามากเกินไป
  • - ใช้เมนูแนะนำ: ติดสัญลักษณ์ “แนะนำ” หรือ “ขายดี” เพื่อจูงใจลูกค้า
  • - Upsell อย่างแนบเนียน: เสนอเมนูเพิ่ม เช่น ของหวานหรือเครื่องดื่มในราคาพิเศษ

บทสรุป

      การตั้งราคาไม่ใช่แค่การคำนวณต้นทุนและบวกกำไร แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยความเข้าใจลูกค้า ตลาด และแบรนด์ของตัวเอง เจ้าของร้านอาหารและคาเฟ่ควรวิเคราะห์ให้ชัดเจนว่าอะไรคือจุดเด่นของร้าน และเลือกใช้กลยุทธ์ราคาที่เหมาะสมกับเป้าหมายของธุรกิจนั้นๆ

กลยุทธ์ที่ดีจะช่วยเพิ่มยอดขาย สร้างภาพลักษณ์ และทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้งอย่างยั่งยืน


    ใช้ระบบจัดการร้านอาหาร ZoftConnect POS ช่วยให้ตั้งราคาและบริหารร้านได้ง่ายขึ้น

    หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือช่วยจัดการร้านอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การตั้งราคาเมนู, คำนวณต้นทุน, จัดโปรโมชั่น หรือดูยอดขายแบบเรียลไทม์ — ระบบ ZoftConnect POS คือคำตอบสำหรับคุณ

    ด้วยฟีเจอร์ครบถ้วน ใช้งานง่าย รองรับทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านนม และบุฟเฟ่ต์ ZoftConnect จะช่วยให้คุณควบคุมต้นทุนได้แม่นยำขึ้น และวางกลยุทธ์การตั้งราคาได้อย่างมืออาชีพ


    ติดต่อแอดมินเพื่อขอคำแนะนำฟรี หรือทดลองใช้งาน แอด LINE เพื่อปรึกษาทีมงาน: @zoftconnect

    พร้อมแล้วหรือยังที่จะเปลี่ยนการตั้งราคาให้กลายเป็นเครื่องมือเพิ่มกำไร?

    Share:

    โพสต์ที่น่าสนใจ